หลากหลายเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับกีฬาสเกตน้ำแข็ง

หากพูดถึงกีฬาสเกตน้ำแข็ง (Ice Skating) ในประเทศไทย หลายคนอาจจะมีความคิดว่ากีฬาชนิดนี้เป็นเรื่องไกลตัว เนื่องจากประเทศเราเป็นประเทศในเขตร้อน อย่าว่าแต่จะมีหิมะเลย แม้แต่อากาศหนาวในช่วงฤดูหนาวเอง ก็ยังแทบจะรู้สึกได้น้อยมาก ๆ จะด้วยผลกระทบจากสภาวะโลกร้อนหรืออะไรก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่าไม่จำเป็นต้องอยู่ในประเทศที่มีหิมะตกก็สามารถที่จะเล่นเจ้ากีฬาชนิดนี้ได้ ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับสเกตน้ำแข็งกันให้ดีก่อนดีกว่า ทำความรู้จักกับกีฬาสเกตน้ำแข็ง ว่ากันว่าการเล่นสเกตน้ำแข็งนั้นเกิดขึ้นครั้งแรก ๆ ในแถบสแกนดิเนเวีย ตั้งแต่ประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยกีฬาสเกตน้ำแข็ง คือ กีฬาที่ต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายไปบนน้ำแข็งด้วยการเดิน การกระโดด การหมุนตัว ซึ่งอุปกรณ์พื้นฐานของกีฬาชนิดนี้ก็คือ รองเท้าสเกตที่มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนกับรองเท้าธรรมดาทั่ว ๆ ไป กล่าวคือ เป็นรองเท้าหุ้มข้อที่มีพื้นรองเท้าด้านล่างเป็นใบมีด ซึ่งขนาดหรือความยาวของใบมีดก็จะแตกต่างกันไปขึ้นกับประเภทของกีฬาสเกตน้ำแข็ง โดยกีฬาชนิดนี้ ถูกพัฒนามาเรื่อย ๆ จนสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทใหญ่ ๆ เช่น สเกตความเร็ว (Speed Skating) สเกตลีลา (Figure Skating) และฮอกกี้น้ำแข็ง (Ice hockey) 

“Disney on Ice” การแสดงที่คนรักกีฬา skate และชอบความบันเทิงต้องห้ามพลาด

“ดิสนีย์ ออน ไอซ์ (Disney on Ice)” เป็นการแสดงที่อาศัยทักษะทางด้านกีฬาสเกตน้ำแข็ง ประเภท สเกตลีลา (Figure Skating) แต่เดิมรู้จักกันในชื่อว่า “วอล์ท ดิสนีย์ เวิลด์ ออน ไอซ์ Walt Disney’s World on Ice” โดยการแสดงนี้ถูกผลิตขึ้นโดย บริษัท เฟลด์ เอนเตอร์เทนเมนต์ (Feld Entertainment) ภายใต้การทำข้อตกลงเรื่องลิขสิทธิ์ร่วมกันกับบริษัท วอล์ท ดิสนีย์ จำกัด การแสดงนี้เป็นการแสดงสเกตน้ำแข็งที่นำเอาคาแรคเตอร์ตัวละครจากภาพยนตร์ในเครือดิสนีย์ในหลากหลายเรื่องราวมาถ่ายทอดให้ผู้ชมได้รับความสนุกสนาน และสัมผัสกับความบันเทิงอีกรูปแบบหนึ่งจากตัวละครดิสนีย์ที่ทุกคนรัก เป็นการแสดงที่ถูกจัดไปทั่วโลก และประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการจัดการแสดงดิสนีย์ ออน ไอซ์ มาแล้วเป็นจำนวนหลายครั้ง ซึ่งบริษัทผู้นำการแสดงนี้เข้ามาในประเทศไทย ก็คือ บริษัทบีอีซี – เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

ทำความรู้จักกับ 2 ดาวรุ่งชาย นักกีฬาสปีดสเก็ตติ้งทีมชาติไทย

กีฬาสปีดสเก็ตติ้ง (Speed Skating) เป็นหนึ่งในประเภทกีฬาสเกตน้ำแข็ง (Ice Skating) ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากเยาวชนไทยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากว่ากีฬาชนิดนี้ค่อนข้างมีเสน่ห์บางอย่างที่กีฬาชนิดอื่นไม่มี ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าอากาศปกติ อย่างที่ทราบกันดีว่ากีฬาสเกตน้ำแข็ง คือ กีฬาที่ผู้เล่นต้องเคลื่อนไหวร่างกายไปในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเดิน วิ่ง กระโดด หมุนตัวบนพื้นน้ำแข็ง กีฬาชนิดนี้จึงจำเป็นต้องเล่นในพื้นที่เฉพาะที่จัดเตรียมพื้นน้ำแข็งเอาไว้ ส่งผลให้ขณะที่เล่นกีฬาชนิดนี้จะสามารถเล่นได้นานกว่ากีฬาชนิดอื่น ๆ เพราะไม่ร้อนเท่าการเล่นกีฬากลางแจ้งชนิดอื่น ๆ นั่นเอง และเนื่องจากกีฬาสปีดสเก็ตติ้งกำลังเป็นที่จับตามองว่าผู้เล่นมีความเท่ ความคูลในเวลาเดียวกัน เราจึงอยากพาคุณผู้อ่านไปทำรู้จักกับ 2 ดาวรุ่งชาย ซึ่งเป็นนักกีฬาสปีดสเก็ตติ้งทีมชาติไทยที่กำลังมาแรงและเป็นที่จับตามองอยู่ในขณะนี้ “จิมมี่” ไตรภพ ทองงาม นักกีฬาสปีดสเก็ตติ้งดาวรุ่งวัย 18 ปี จากจังหวัดนครราชสีมา ผู้ที่ฝึกการเล่นสเกตน้ำแข็งโดยมีพื้นฐานมาจากการเล่นโรลเลอร์สเก็ตมาก่อน จิมมี่เป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการเข้าร่วมการแข่งขัน “กีฬาซีเกมส์ 2017” ซึ่งเป็นการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ในปี พ.ศ.2560 ณ กัวลาลัมเปอร์

ทำความรู้จักกับสาวดาวรุ่งแห่งวงการนักตบลูกยางไทย

ในแวดวงแฟนกีฬานักตบลูกยางสาวไทย เชื่อแน่นอนว่านักกีฬาที่เป็นที่รักและถือเป็นตำนานในใจนั้นจะต้องเป็น 1 ใน 7 นักตบลูกยาง ผู้เป็นหนึ่งในทีมที่พาเอากีฬาวอลเลย์บอลหญิงเข้ามาอยู่ในใจคนไทยหลาย ๆ คนตลอดระยะ 10 กว่าปีที่ผ่านมา อย่าง ปลื้มจิตร์ ถินขาว, นุศรา ต้อมคำ, อรอุมา สิทธิรักษ์, วรรณา บัวแก้ว, มะลิกันทอง วิลาวัณย์, อภิญญาพงศ์ และอำพรหญ้าผา อย่างแน่นอน แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่อเวลาผ่านพ้นไป นักกีฬาที่เราเคยชื่นชอบก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนเส้นทางเดินชีวิต อาจจะมีการหันเหออกจากวงการกีฬาก็เป็นได้ จะด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือเป้าหมายการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น การยุติการเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทยของวรรณา หรือ “ยายนา” ที่ทุกคนรู้จัก โดยการผันตัวไปเป็นนักกีฬาอิสระ ทำธุรกิจส่วนตัว ตลอดจนเป็นโค้ชให้กับทีมวอลเลย์บอล เป็นต้น เมื่อรุ่นเก่าเริ่มทยอยออกจากวงการ ดังนั้นย่อมมีรุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ เพื่อให้วงการกีฬาวอลเลย์บอลสามารถไปต่อได้ วันนี้เราจึงจะพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักกับสาวดาวรุ่งแห่งวงการนักตบลูกยางไทย ส่วนว่าจะเป็นใครอะไรยังไงนั้น ไปดูกันได้เลย “บีม พิมพิชยา

 รู้จักกับ “กัปตัน อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์” หนุ่มน้อยนักกีฬายิงปืนอนาคตไกล

เป็นที่ทราบกันดีว่ากีฬายิงปืนนั้นเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยสมาธิขั้นสูง เพราะเป็นกีฬาที่ต้องต่อสู้กับจิตใจตนเอง เป็นกีฬาที่ต้องพัฒนาความสามารถตนเองไปพร้อม ๆ กับการฝึกสมาธิ เพราะในการแข่งขันจริงนั้นใช้ระยะเวลาสั้นเพียงชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น ดังนั้นพลังในการจดจ่อจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง กีฬาชนิดนี้ไม่เน้นว่าต้องมีร่างกายแข็งแรงมากมายอะไรนัก เพราะไม่ใช่กีฬาปะทะกัน แถมส่วนสูงจะมีมากหรือน้อยก็ไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญสักเท่าไรด้วย อย่างที่รู้กันว่ากีฬาชนิดนี้ มีองค์ประกอบสำคัญอยู่ด้วยกัน 3 ส่วนหลัก ๆ คือ ปืน กระสุน และเป้า ดังนั้นกีฬาชนิดนี้หากใครอยากฝึกฝนจนเกิดความชำนาญถึงขั้นเป็นนักกีฬาก็คงต้องมีการลงทุนกันอยู่มากพอสมควร ซึ่งเรื่องนี้ครอบครัว “ภูริหิรัญพัชร์” ทราบเป็นอย่างดี เพราะตลอดระยะเวลากว่า 7 ปี ที่ “กัปตัน อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์” ลูกชายของพวกเค้าใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเอาจริงเอาจังในการฝึกซ้อมจนกระทั่งประสบความสำเร็จด้วยการคว้าตั๋วโอลิมปิก 2020 ในนามนักกีฬายิงปืนไทยคนแรกที่อายุน้อยที่สุด ด้วยวัยเพียง 15 ปีได้สำเร็จ เราไปรู้จักกับหนุ่มน้อยคนนี้และเบื้องหลังความสำเร็จของเค้าให้มากขึ้นกันดีกว่า “กัปตัน” หนุ่มน้อยผู้มีใจรักในกีฬายิงปืนและพกความมุ่งมั่นมาเต็มเปี่ยม กัปตันเกิดและเติบโตที่จังหวัดนครราชสีมา คุณแม่ “พรพักตร์ ภูริหิรัญพัชร์” เริ่มเห็นแววความชอบในปืนของกัปตันตั้งแต่เค้าอายุได้เพียง 2 ขวบ และได้เริ่มส่งเสริมให้เค้าฝึกซ้อมเล่นกีฬาชนิดนี้อย่างจริงจังตอนลูกชายอายุได้

“Ralf Schumann” หนึ่งในตำนานนักกีฬายิงปืนในรายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

กีฬายิงปืน เป็นกีฬาที่ต้องอาศัยความแม่นยำ ต้องมีสมาธิทั้งในตอนฝึกซ้อมและตอนแข่งขันจริง เป็นกีฬาที่คนใจเย็นจะสามารถทำได้ดีกว่า กีฬายิงปืนถูกบรรจุให้มีการจัดการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกตั้งแต่ครั้งแรกของการจัดการแข่งขันในปี ค.ศ.1896 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ปัจจุบันการแข่งขันโอลิมปิกดำเนินมาถึงปี 2020 ซึ่งมีประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ โดยการแข่งขันจะถูกจัดขึ้นที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันและเวลากการแข่งขันถูกเลื่อนออกไปเป็นช่วงเวลาระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม ค.ศ. 2021 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่โควิด 19 ทำความรู้จักรายการแข่งขันกีฬายิงปืนในโอลิมปิกฤดูร้อนที่โตเกียว มีทั้งหมด 3 รายการ ประกอบด้วย ปืนยาว (Rifle) แบ่งเป็นการแข่งขันยิงปืนยาว 3 ท่า 50 เมตร (ชายหญิง) และปืนยาวอัดลม 10 เมตร (ชายหญิงและผสม ) ปืนสั้น (Pistol) แบ่งเป็นการแข่งขันยิงปืนสั้น 25 เมตร (หญิง),

รู้หรือไม่ นักกีฬาไทยคนใดได้ตั๋วไปโอลิมปิก 2020 กันบ้าง

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ถือเป็นสุดยอดรายการแข่งขันกีฬาที่ไม่มีนักกีฬาคนไหนไม่อยากเข้าร่วม ถือเป็นความสำเร็จสูงสุดจุดหนึ่งในอาชีพนักกีฬาที่คนส่วนใหญ่ต้องการมีไว้ในครอบครองสักหนึ่งครั้งในชีวิต ยิ่งถ้าได้เหรียญรางวัลกลับมาจากการแข่งขันโอลิมปิกด้วยแล้ว ยิ่งเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่ความภาคภูมิใจของตนเองแต่ยังหมายรวมถึงความภาคภูมิใจและความสุขใจของคนทั้งประเทศ และยังเป็นก้าวสำคัญอันดีในการเป็นนักกีฬามืออาชีพต่อไปในสายกีฬาที่ตนถนัดอีกด้วย และแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่างโควิด 19 จะทำให้ต้องมีการเลื่อนจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นออกไปก่อน แต่การคัดเลือกนักกีฬาจากหลากหลายประเทศก็ดำเนินการแล้วเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ทราบแล้วว่านักกีฬาคนใดจากประเภทกีฬาชนิดใดบ้างที่สามารถคว้าตั๋วเป็นใบเบิกทางในการเข้าแข่งขันโอลิมปิกในครั้งนี้ได้ โดยจากผลการคัดเลือกนั้นประเทศไทยได้โควตานักกีฬาโอลิมปิก 2020 จำนวน 15 โควตา สำหรับ 6 ชนิดกีฬา ได้แก่ มวยสากล, เทควันโด, ขี่ม้า, ยิงปืน, จักรยาน, และเรือใบ จำนวนรวมนักกีฬาที่มีโอกาสได้ไปสานฝันตนเองและครอบครัว รวมทั้งเป็นตัวแทนคนไทยไปสร้างชื่อเสียงด้วยกันทั้งสิ้น 17 คน จะเป็นใครกันบ้างนั้นไปดูกันได้เลย 1.กีฬามวยสากล ประกอบด้วย มวยสากล รุ่น 60 กิโลกรัมหญิง ได้แก่ สุดาพร สีสอนดี (แต้ว) มวยสากล รุ่น

รู้จักกับ “เศวต เศรษฐาภรณ์” เขาผู้การันตีว่าสำหรับกีฬายิงปืนนั้น อายุเป็นเพียงตัวเลยจริง ๆ

ว่ากันว่ากีฬาใคร ๆ ก็เล่นได้หากขอเพียงมีใจรักก็สามารถที่จะเล่นกีฬาได้ แต่จะเล่นได้ดีหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องที่จะต้องขึ้นอยู่กับความทุ่มเท และความมีวินัยใส่ใจฝึกซ้อมที่มากพอหรือไม่ต่างหาก ที่จะเป็นตัวการันตีได้ว่านักกีฬาคนนั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ และว่ากันว่าอายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข จะอายุมากหรือน้อย จะหนุ่มหรือเด็ก หรือจะคนแก่ ก็ยังมีโอกาสที่จะแสดงศักยภาพทางด้านกีฬาออกมาได้เช่นเดียวกัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อจำกัดเพราะเมื่อมีอายุที่มากขึ้น การเลือกเล่นชนิดกีฬาให้เข้ากับสภาพความแข็งแรงของร่างกายก็เป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงมาเป็นอันดับต้น ๆ เพราะคงไม่ใช่กีฬาทุกชนิดที่จะเล่นได้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีกีฬาที่เหมาะสำหรับคนที่มีอายุ เพราะก็มีกีฬาอยู่ไม่น้อยเหมือนกันที่บอกเลยว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขจริง ๆ ยกตัวอย่างเช่นกีฬายิงปืน เป็นต้น และนักกีฬายิงปืนที่มีอายุค่อนข้างมากแต่ยังคงประสบความสำเร็จอยู่ในวงการกีฬายิงปืนคนหนึ่งที่เห็นจะไม่พูดถึงเขาไม่ได้ ก็คือ เศวต เศรษฐาภรณ์ ชายวัย 56 ปี ดีกรีนักกีฬายิงปืนเป้าบินชายคนไทยคนแรกที่ได้ตั๋วร่วมเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ซึ่งมีประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยต้องบอกเลยว่าประวัติของนักกีฬาชายคนนี้ไม่ธรรมดาเอามาก ๆ ไปทำความรู้จักกับเขาเลยดีกว่า เศวต เศรษฐาภรณ์ หรือ แซม เกิดวันสงกรานต์ คือ 13 เมษายน 2506 เขาหาเลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพนักบินเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งมีอายุได้ 41 ปี

3 ประโยชน์ที่ได้จากการดูรายการแข่งขันกีฬา

เป็นที่ทราบแน่ชัดอยู่แล้วว่าการออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬาชนิดใด จะว่ายน้ำ ฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ปั่นจักรยาน วิ่ง หรืออื่น ๆ ต่างก็ช่วยให้ร่างกายเกิดความแข็งแรงและความผ่อนคลายได้ทั้งนั้น แต่รู้หรือไม่ว่าถึงแม้ไม่ชอบการออกกำลังกายด้วยตัวเอง แต่ชอบการดูรายการแข่งขันกีฬาก็สามารถที่จะได้รับประโยชน์ได้เช่นเดียวกัน บทความนี้จึงได้นำเอา 3 ประโยชน์ที่ได้จากการดูรายการแข่งขันกีฬามาฝากคุณผู้อ่านทุกคน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง 1.ความบันเทิง แน่นอนว่าคนที่ชอบดูเกมการแข่งขันกีฬาที่ตนเองชื่นชอบ จะมีความรู้สึกว่าการได้ดูรายการแข่งขันกีฬา ได้เห็นความสามารถของนักกีฬาในดวงใจและได้เชียร์ทีมที่ตนชื่นชอบนั้น เป็นกิจกรรมที่ให้ความบันเทิงและความผ่อนคลายได้ดีไม่น้อยไปกว่าการดูซีรี่ส์ ดูหนังฟังเพลงแต่อย่างใดเลย เพราะขณะที่เรากำลังดูรายการแข่งขันกีฬาที่เราชื่นชอบ จิตใจเราจะจดจ่อไปกับการแข่งขัน ทำให้ลืมความทุกข์ ความเศร้าที่อาจต้องเจอในชีวิตประจำวันลงไปได้บ้าง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้คนจำนวนมากจะชอบดูรายการแข่งขันกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ 2.แรงบันดาลใจ แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบในการรับชมรับฟังรายการแข่งขันกีฬาประเภทต่าง ๆ มักจะชื่นชอบ หรือหลงใหลในกีฬาชนิดนั้น ๆ อยู่บ้างไม่มากก็น้อย อาจจะมีบ้างที่ไม่ได้อินมากนัก แต่ส่วนใหญ่แล้วก็หนีไม่พ้นว่าต้องมีความสนใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับกีฬาชนิดนั้น ๆ อาจจะสนใจเพราะตนเองชอบ หรืออาจจะสนใจเพราะคนในครอบครัว หรือเพื่อน ๆ ในกลุ่มชอบก็เป็นได้ แต่สำหรับคนที่ต้องการจะเป็นนักกีฬานั้นบอกเลยว่าการได้ดูรายการแข่งขันกีฬาที่สนุก

รู้หรือไม่ 2 ศิลปินเหล่านี้เคยเป็นนักกีฬาที่มีความสามารถหาตัวจับยากมาก่อน

กีฬาเป็นงานอดิเรกที่สามารถช่วยให้คนเราเกิดความผ่อนคลายได้ เนื่องด้วยภาระหน้าที่ต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญในแต่ละวันแต่ละช่วงเวลาของการดำเนินชีวิต ซึ่งคงต้องบอกว่าบางคนนั้นไม่ได้เล่นกีฬาเพื่อความผ่อนคลายแต่เพียงอย่างเดียว แต่อาจใส่ความตั้งใจ ใส่ความพยายามจนกลายมาเป็นนักกีฬาทั้งสมัครเล่นและอาชีพในแต่ละชนิดกีฬาที่ตนสนใจ เฉกเช่นเดียวกับคนในวงการบันเทิงไม่ว่าจะเป็นนักร้อง ดารานักแสดงเหล่านี้ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อนว่าเขาและเธอเหล่านี้นั้นเคยคร่ำหวอดอยู่ในการเล่นกีฬาที่ตนเองสนใจจนถึงขนาดที่ว่าได้เหรียญรางวัลจากการแข่งขันมาแล้วมากมายก็มี เราไปดูกันดีกว่าว่าดารา นักแสดง นักร้องดังกล่าวมีใครกันบ้าง 1.นาย ณภัทร เสียงสมบุญ เป็นหนึ่งในดารานักแสดงชายสุดฮอตจากช่อง 3 ที่บอกเลยว่าไม่ใช่แค่เพียงดีกรีความหล่อที่พกติดตัวมาเท่านั้น แต่นายยังมีความสามารถในการเล่นกอล์ฟมากอีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่าเส้นทางการเป็นนักกีฬากอล์ฟของเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่อย่างใด ด้วยความที่ คุณหมู พิมพ์ผกา คุณแม่ยังสาวของเขาต้องเลี้ยงเขามาเพียงลำพัง ดังนั้นค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ส่วนใหญ่จึงเป็นหน้าที่ที่ผู้เป็นแม่ต้องดูแล ทำให้หลายครั้งที่นายเกิดความสงสารแม่ แต่ในเมื่อกอล์ฟเป็นสิ่งที่นายรัก และแม่ก็พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ เขาจึงพยายามลดภาระคุณแม่ของเขาด้วยการวางแผนการซ้อม และเส้นทางการเล่นกีฬากอล์ฟของเขาทุกขั้นตอน สิ่งไหนที่พอจะวางแผนค่าใช้จ่ายช่วยคุณแม่ได้ เขาไม่ลังเลที่จะทำ และล่าสุดละครที่เขาเล่นเรื่อง Tee ใครทีมันส์ ก็เปิดโอกาสให้เค้าได้แสดงศักยภาพและความสามารถในการเล่นกีฬากอล์ฟของเขาให้แฟน ๆ ได้มีโอกาสเห็นและชื่นชมกันอีกด้วย นอกจากนี้นายยังเปิดโอกาสให้นักเรียนขาดแคลนที่รักการเล่นกอล์ฟเขียนจดหมายมาขอทุนเพื่อซื้ออุปกรณ์การเล่นกอล์ฟ เพราะเขารู้ดีว่าโอกาสในการตามฝันนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เหมือนอย่างที่เขาเคยได้รับมานั่นเอง 2. ปันปัน เต็มฟ้า กฤษณายุธ