กีฬา Archive

หลากหลายเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับกีฬาสเกตน้ำแข็ง

หากพูดถึงกีฬาสเกตน้ำแข็ง (Ice Skating) ในประเทศไทย หลายคนอาจจะมีความคิดว่ากีฬาชนิดนี้เป็นเรื่องไกลตัว เนื่องจากประเทศเราเป็นประเทศในเขตร้อน อย่าว่าแต่จะมีหิมะเลย แม้แต่อากาศหนาวในช่วงฤดูหนาวเอง ก็ยังแทบจะรู้สึกได้น้อยมาก ๆ จะด้วยผลกระทบจากสภาวะโลกร้อนหรืออะไรก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่าไม่จำเป็นต้องอยู่ในประเทศที่มีหิมะตกก็สามารถที่จะเล่นเจ้ากีฬาชนิดนี้ได้ ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับสเกตน้ำแข็งกันให้ดีก่อนดีกว่า ทำความรู้จักกับกีฬาสเกตน้ำแข็ง ว่ากันว่าการเล่นสเกตน้ำแข็งนั้นเกิดขึ้นครั้งแรก ๆ ในแถบสแกนดิเนเวีย ตั้งแต่ประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยกีฬาสเกตน้ำแข็ง คือ กีฬาที่ต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายไปบนน้ำแข็งด้วยการเดิน การกระโดด การหมุนตัว ซึ่งอุปกรณ์พื้นฐานของกีฬาชนิดนี้ก็คือ รองเท้าสเกตที่มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนกับรองเท้าธรรมดาทั่ว ๆ ไป กล่าวคือ เป็นรองเท้าหุ้มข้อที่มีพื้นรองเท้าด้านล่างเป็นใบมีด ซึ่งขนาดหรือความยาวของใบมีดก็จะแตกต่างกันไปขึ้นกับประเภทของกีฬาสเกตน้ำแข็ง โดยกีฬาชนิดนี้ ถูกพัฒนามาเรื่อย ๆ จนสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทใหญ่ ๆ เช่น สเกตความเร็ว (Speed Skating) สเกตลีลา (Figure Skating) และฮอกกี้น้ำแข็ง (Ice hockey) 

ทำความรู้จักกับ 2 ดาวรุ่งชาย นักกีฬาสปีดสเก็ตติ้งทีมชาติไทย

กีฬาสปีดสเก็ตติ้ง (Speed Skating) เป็นหนึ่งในประเภทกีฬาสเกตน้ำแข็ง (Ice Skating) ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากเยาวชนไทยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากว่ากีฬาชนิดนี้ค่อนข้างมีเสน่ห์บางอย่างที่กีฬาชนิดอื่นไม่มี ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าอากาศปกติ อย่างที่ทราบกันดีว่ากีฬาสเกตน้ำแข็ง คือ กีฬาที่ผู้เล่นต้องเคลื่อนไหวร่างกายไปในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเดิน วิ่ง กระโดด หมุนตัวบนพื้นน้ำแข็ง กีฬาชนิดนี้จึงจำเป็นต้องเล่นในพื้นที่เฉพาะที่จัดเตรียมพื้นน้ำแข็งเอาไว้ ส่งผลให้ขณะที่เล่นกีฬาชนิดนี้จะสามารถเล่นได้นานกว่ากีฬาชนิดอื่น ๆ เพราะไม่ร้อนเท่าการเล่นกีฬากลางแจ้งชนิดอื่น ๆ นั่นเอง และเนื่องจากกีฬาสปีดสเก็ตติ้งกำลังเป็นที่จับตามองว่าผู้เล่นมีความเท่ ความคูลในเวลาเดียวกัน เราจึงอยากพาคุณผู้อ่านไปทำรู้จักกับ 2 ดาวรุ่งชาย ซึ่งเป็นนักกีฬาสปีดสเก็ตติ้งทีมชาติไทยที่กำลังมาแรงและเป็นที่จับตามองอยู่ในขณะนี้ “จิมมี่” ไตรภพ ทองงาม นักกีฬาสปีดสเก็ตติ้งดาวรุ่งวัย 18 ปี จากจังหวัดนครราชสีมา ผู้ที่ฝึกการเล่นสเกตน้ำแข็งโดยมีพื้นฐานมาจากการเล่นโรลเลอร์สเก็ตมาก่อน จิมมี่เป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการเข้าร่วมการแข่งขัน “กีฬาซีเกมส์ 2017” ซึ่งเป็นการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ในปี พ.ศ.2560 ณ กัวลาลัมเปอร์

ทำความรู้จักกับสาวดาวรุ่งแห่งวงการนักตบลูกยางไทย

ในแวดวงแฟนกีฬานักตบลูกยางสาวไทย เชื่อแน่นอนว่านักกีฬาที่เป็นที่รักและถือเป็นตำนานในใจนั้นจะต้องเป็น 1 ใน 7 นักตบลูกยาง ผู้เป็นหนึ่งในทีมที่พาเอากีฬาวอลเลย์บอลหญิงเข้ามาอยู่ในใจคนไทยหลาย ๆ คนตลอดระยะ 10 กว่าปีที่ผ่านมา อย่าง ปลื้มจิตร์ ถินขาว, นุศรา ต้อมคำ, อรอุมา สิทธิรักษ์, วรรณา บัวแก้ว, มะลิกันทอง วิลาวัณย์, อภิญญาพงศ์ และอำพรหญ้าผา อย่างแน่นอน แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่อเวลาผ่านพ้นไป นักกีฬาที่เราเคยชื่นชอบก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนเส้นทางเดินชีวิต อาจจะมีการหันเหออกจากวงการกีฬาก็เป็นได้ จะด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือเป้าหมายการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น การยุติการเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทยของวรรณา หรือ “ยายนา” ที่ทุกคนรู้จัก โดยการผันตัวไปเป็นนักกีฬาอิสระ ทำธุรกิจส่วนตัว ตลอดจนเป็นโค้ชให้กับทีมวอลเลย์บอล เป็นต้น เมื่อรุ่นเก่าเริ่มทยอยออกจากวงการ ดังนั้นย่อมมีรุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ เพื่อให้วงการกีฬาวอลเลย์บอลสามารถไปต่อได้ วันนี้เราจึงจะพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักกับสาวดาวรุ่งแห่งวงการนักตบลูกยางไทย ส่วนว่าจะเป็นใครอะไรยังไงนั้น ไปดูกันได้เลย “บีม พิมพิชยา

 รู้จักกับ “กัปตัน อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์” หนุ่มน้อยนักกีฬายิงปืนอนาคตไกล

เป็นที่ทราบกันดีว่ากีฬายิงปืนนั้นเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยสมาธิขั้นสูง เพราะเป็นกีฬาที่ต้องต่อสู้กับจิตใจตนเอง เป็นกีฬาที่ต้องพัฒนาความสามารถตนเองไปพร้อม ๆ กับการฝึกสมาธิ เพราะในการแข่งขันจริงนั้นใช้ระยะเวลาสั้นเพียงชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น ดังนั้นพลังในการจดจ่อจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง กีฬาชนิดนี้ไม่เน้นว่าต้องมีร่างกายแข็งแรงมากมายอะไรนัก เพราะไม่ใช่กีฬาปะทะกัน แถมส่วนสูงจะมีมากหรือน้อยก็ไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญสักเท่าไรด้วย อย่างที่รู้กันว่ากีฬาชนิดนี้ มีองค์ประกอบสำคัญอยู่ด้วยกัน 3 ส่วนหลัก ๆ คือ ปืน กระสุน และเป้า ดังนั้นกีฬาชนิดนี้หากใครอยากฝึกฝนจนเกิดความชำนาญถึงขั้นเป็นนักกีฬาก็คงต้องมีการลงทุนกันอยู่มากพอสมควร ซึ่งเรื่องนี้ครอบครัว “ภูริหิรัญพัชร์” ทราบเป็นอย่างดี เพราะตลอดระยะเวลากว่า 7 ปี ที่ “กัปตัน อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์” ลูกชายของพวกเค้าใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเอาจริงเอาจังในการฝึกซ้อมจนกระทั่งประสบความสำเร็จด้วยการคว้าตั๋วโอลิมปิก 2020 ในนามนักกีฬายิงปืนไทยคนแรกที่อายุน้อยที่สุด ด้วยวัยเพียง 15 ปีได้สำเร็จ เราไปรู้จักกับหนุ่มน้อยคนนี้และเบื้องหลังความสำเร็จของเค้าให้มากขึ้นกันดีกว่า “กัปตัน” หนุ่มน้อยผู้มีใจรักในกีฬายิงปืนและพกความมุ่งมั่นมาเต็มเปี่ยม กัปตันเกิดและเติบโตที่จังหวัดนครราชสีมา คุณแม่ “พรพักตร์ ภูริหิรัญพัชร์” เริ่มเห็นแววความชอบในปืนของกัปตันตั้งแต่เค้าอายุได้เพียง 2 ขวบ และได้เริ่มส่งเสริมให้เค้าฝึกซ้อมเล่นกีฬาชนิดนี้อย่างจริงจังตอนลูกชายอายุได้

“Ralf Schumann” หนึ่งในตำนานนักกีฬายิงปืนในรายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

กีฬายิงปืน เป็นกีฬาที่ต้องอาศัยความแม่นยำ ต้องมีสมาธิทั้งในตอนฝึกซ้อมและตอนแข่งขันจริง เป็นกีฬาที่คนใจเย็นจะสามารถทำได้ดีกว่า กีฬายิงปืนถูกบรรจุให้มีการจัดการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกตั้งแต่ครั้งแรกของการจัดการแข่งขันในปี ค.ศ.1896 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ปัจจุบันการแข่งขันโอลิมปิกดำเนินมาถึงปี 2020 ซึ่งมีประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ โดยการแข่งขันจะถูกจัดขึ้นที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันและเวลากการแข่งขันถูกเลื่อนออกไปเป็นช่วงเวลาระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม ค.ศ. 2021 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่โควิด 19 ทำความรู้จักรายการแข่งขันกีฬายิงปืนในโอลิมปิกฤดูร้อนที่โตเกียว มีทั้งหมด 3 รายการ ประกอบด้วย ปืนยาว (Rifle) แบ่งเป็นการแข่งขันยิงปืนยาว 3 ท่า 50 เมตร (ชายหญิง) และปืนยาวอัดลม 10 เมตร (ชายหญิงและผสม ) ปืนสั้น (Pistol) แบ่งเป็นการแข่งขันยิงปืนสั้น 25 เมตร (หญิง),

รู้หรือไม่ นักกีฬาไทยคนใดได้ตั๋วไปโอลิมปิก 2020 กันบ้าง

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ถือเป็นสุดยอดรายการแข่งขันกีฬาที่ไม่มีนักกีฬาคนไหนไม่อยากเข้าร่วม ถือเป็นความสำเร็จสูงสุดจุดหนึ่งในอาชีพนักกีฬาที่คนส่วนใหญ่ต้องการมีไว้ในครอบครองสักหนึ่งครั้งในชีวิต ยิ่งถ้าได้เหรียญรางวัลกลับมาจากการแข่งขันโอลิมปิกด้วยแล้ว ยิ่งเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่ความภาคภูมิใจของตนเองแต่ยังหมายรวมถึงความภาคภูมิใจและความสุขใจของคนทั้งประเทศ และยังเป็นก้าวสำคัญอันดีในการเป็นนักกีฬามืออาชีพต่อไปในสายกีฬาที่ตนถนัดอีกด้วย และแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่างโควิด 19 จะทำให้ต้องมีการเลื่อนจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นออกไปก่อน แต่การคัดเลือกนักกีฬาจากหลากหลายประเทศก็ดำเนินการแล้วเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ทราบแล้วว่านักกีฬาคนใดจากประเภทกีฬาชนิดใดบ้างที่สามารถคว้าตั๋วเป็นใบเบิกทางในการเข้าแข่งขันโอลิมปิกในครั้งนี้ได้ โดยจากผลการคัดเลือกนั้นประเทศไทยได้โควตานักกีฬาโอลิมปิก 2020 จำนวน 15 โควตา สำหรับ 6 ชนิดกีฬา ได้แก่ มวยสากล, เทควันโด, ขี่ม้า, ยิงปืน, จักรยาน, และเรือใบ จำนวนรวมนักกีฬาที่มีโอกาสได้ไปสานฝันตนเองและครอบครัว รวมทั้งเป็นตัวแทนคนไทยไปสร้างชื่อเสียงด้วยกันทั้งสิ้น 17 คน จะเป็นใครกันบ้างนั้นไปดูกันได้เลย 1.กีฬามวยสากล ประกอบด้วย มวยสากล รุ่น 60 กิโลกรัมหญิง ได้แก่ สุดาพร สีสอนดี (แต้ว) มวยสากล รุ่น

รู้จักกับ “เศวต เศรษฐาภรณ์” เขาผู้การันตีว่าสำหรับกีฬายิงปืนนั้น อายุเป็นเพียงตัวเลยจริง ๆ

ว่ากันว่ากีฬาใคร ๆ ก็เล่นได้หากขอเพียงมีใจรักก็สามารถที่จะเล่นกีฬาได้ แต่จะเล่นได้ดีหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องที่จะต้องขึ้นอยู่กับความทุ่มเท และความมีวินัยใส่ใจฝึกซ้อมที่มากพอหรือไม่ต่างหาก ที่จะเป็นตัวการันตีได้ว่านักกีฬาคนนั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ และว่ากันว่าอายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข จะอายุมากหรือน้อย จะหนุ่มหรือเด็ก หรือจะคนแก่ ก็ยังมีโอกาสที่จะแสดงศักยภาพทางด้านกีฬาออกมาได้เช่นเดียวกัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อจำกัดเพราะเมื่อมีอายุที่มากขึ้น การเลือกเล่นชนิดกีฬาให้เข้ากับสภาพความแข็งแรงของร่างกายก็เป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงมาเป็นอันดับต้น ๆ เพราะคงไม่ใช่กีฬาทุกชนิดที่จะเล่นได้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีกีฬาที่เหมาะสำหรับคนที่มีอายุ เพราะก็มีกีฬาอยู่ไม่น้อยเหมือนกันที่บอกเลยว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขจริง ๆ ยกตัวอย่างเช่นกีฬายิงปืน เป็นต้น และนักกีฬายิงปืนที่มีอายุค่อนข้างมากแต่ยังคงประสบความสำเร็จอยู่ในวงการกีฬายิงปืนคนหนึ่งที่เห็นจะไม่พูดถึงเขาไม่ได้ ก็คือ เศวต เศรษฐาภรณ์ ชายวัย 56 ปี ดีกรีนักกีฬายิงปืนเป้าบินชายคนไทยคนแรกที่ได้ตั๋วร่วมเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ซึ่งมีประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยต้องบอกเลยว่าประวัติของนักกีฬาชายคนนี้ไม่ธรรมดาเอามาก ๆ ไปทำความรู้จักกับเขาเลยดีกว่า เศวต เศรษฐาภรณ์ หรือ แซม เกิดวันสงกรานต์ คือ 13 เมษายน 2506 เขาหาเลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพนักบินเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งมีอายุได้ 41 ปี

3 ประโยชน์ที่ได้จากการดูรายการแข่งขันกีฬา

เป็นที่ทราบแน่ชัดอยู่แล้วว่าการออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬาชนิดใด จะว่ายน้ำ ฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ปั่นจักรยาน วิ่ง หรืออื่น ๆ ต่างก็ช่วยให้ร่างกายเกิดความแข็งแรงและความผ่อนคลายได้ทั้งนั้น แต่รู้หรือไม่ว่าถึงแม้ไม่ชอบการออกกำลังกายด้วยตัวเอง แต่ชอบการดูรายการแข่งขันกีฬาก็สามารถที่จะได้รับประโยชน์ได้เช่นเดียวกัน บทความนี้จึงได้นำเอา 3 ประโยชน์ที่ได้จากการดูรายการแข่งขันกีฬามาฝากคุณผู้อ่านทุกคน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง 1.ความบันเทิง แน่นอนว่าคนที่ชอบดูเกมการแข่งขันกีฬาที่ตนเองชื่นชอบ จะมีความรู้สึกว่าการได้ดูรายการแข่งขันกีฬา ได้เห็นความสามารถของนักกีฬาในดวงใจและได้เชียร์ทีมที่ตนชื่นชอบนั้น เป็นกิจกรรมที่ให้ความบันเทิงและความผ่อนคลายได้ดีไม่น้อยไปกว่าการดูซีรี่ส์ ดูหนังฟังเพลงแต่อย่างใดเลย เพราะขณะที่เรากำลังดูรายการแข่งขันกีฬาที่เราชื่นชอบ จิตใจเราจะจดจ่อไปกับการแข่งขัน ทำให้ลืมความทุกข์ ความเศร้าที่อาจต้องเจอในชีวิตประจำวันลงไปได้บ้าง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้คนจำนวนมากจะชอบดูรายการแข่งขันกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ 2.แรงบันดาลใจ แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบในการรับชมรับฟังรายการแข่งขันกีฬาประเภทต่าง ๆ มักจะชื่นชอบ หรือหลงใหลในกีฬาชนิดนั้น ๆ อยู่บ้างไม่มากก็น้อย อาจจะมีบ้างที่ไม่ได้อินมากนัก แต่ส่วนใหญ่แล้วก็หนีไม่พ้นว่าต้องมีความสนใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับกีฬาชนิดนั้น ๆ อาจจะสนใจเพราะตนเองชอบ หรืออาจจะสนใจเพราะคนในครอบครัว หรือเพื่อน ๆ ในกลุ่มชอบก็เป็นได้ แต่สำหรับคนที่ต้องการจะเป็นนักกีฬานั้นบอกเลยว่าการได้ดูรายการแข่งขันกีฬาที่สนุก

รู้หรือไม่ 2 ศิลปินเหล่านี้เคยเป็นนักกีฬาที่มีความสามารถหาตัวจับยากมาก่อน

กีฬาเป็นงานอดิเรกที่สามารถช่วยให้คนเราเกิดความผ่อนคลายได้ เนื่องด้วยภาระหน้าที่ต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญในแต่ละวันแต่ละช่วงเวลาของการดำเนินชีวิต ซึ่งคงต้องบอกว่าบางคนนั้นไม่ได้เล่นกีฬาเพื่อความผ่อนคลายแต่เพียงอย่างเดียว แต่อาจใส่ความตั้งใจ ใส่ความพยายามจนกลายมาเป็นนักกีฬาทั้งสมัครเล่นและอาชีพในแต่ละชนิดกีฬาที่ตนสนใจ เฉกเช่นเดียวกับคนในวงการบันเทิงไม่ว่าจะเป็นนักร้อง ดารานักแสดงเหล่านี้ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อนว่าเขาและเธอเหล่านี้นั้นเคยคร่ำหวอดอยู่ในการเล่นกีฬาที่ตนเองสนใจจนถึงขนาดที่ว่าได้เหรียญรางวัลจากการแข่งขันมาแล้วมากมายก็มี เราไปดูกันดีกว่าว่าดารา นักแสดง นักร้องดังกล่าวมีใครกันบ้าง 1.นาย ณภัทร เสียงสมบุญ เป็นหนึ่งในดารานักแสดงชายสุดฮอตจากช่อง 3 ที่บอกเลยว่าไม่ใช่แค่เพียงดีกรีความหล่อที่พกติดตัวมาเท่านั้น แต่นายยังมีความสามารถในการเล่นกอล์ฟมากอีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่าเส้นทางการเป็นนักกีฬากอล์ฟของเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่อย่างใด ด้วยความที่ คุณหมู พิมพ์ผกา คุณแม่ยังสาวของเขาต้องเลี้ยงเขามาเพียงลำพัง ดังนั้นค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ส่วนใหญ่จึงเป็นหน้าที่ที่ผู้เป็นแม่ต้องดูแล ทำให้หลายครั้งที่นายเกิดความสงสารแม่ แต่ในเมื่อกอล์ฟเป็นสิ่งที่นายรัก และแม่ก็พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ เขาจึงพยายามลดภาระคุณแม่ของเขาด้วยการวางแผนการซ้อม และเส้นทางการเล่นกีฬากอล์ฟของเขาทุกขั้นตอน สิ่งไหนที่พอจะวางแผนค่าใช้จ่ายช่วยคุณแม่ได้ เขาไม่ลังเลที่จะทำ และล่าสุดละครที่เขาเล่นเรื่อง Tee ใครทีมันส์ ก็เปิดโอกาสให้เค้าได้แสดงศักยภาพและความสามารถในการเล่นกีฬากอล์ฟของเขาให้แฟน ๆ ได้มีโอกาสเห็นและชื่นชมกันอีกด้วย นอกจากนี้นายยังเปิดโอกาสให้นักเรียนขาดแคลนที่รักการเล่นกอล์ฟเขียนจดหมายมาขอทุนเพื่อซื้ออุปกรณ์การเล่นกอล์ฟ เพราะเขารู้ดีว่าโอกาสในการตามฝันนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เหมือนอย่างที่เขาเคยได้รับมานั่นเอง 2. ปันปัน เต็มฟ้า กฤษณายุธ

กีฬาแท้จริงสนุกตรงไหน ทำไมเราถึงชอบดูถึงขนาดติดกันงอม

มีใครเคยถามตัวเองกันบ้างว่า “ทำไมเราต้องดูกีฬา” การแข่งขันกีฬาเป็นเรื่องที่ซีเรียสจริงจัง หรือเป็นเรื่องของความบันเทิงดูให้สนุกกันแน่ เราได้ยินคำพูดที่ว่า “เกมแพ้คนไม่แพ้” บ่อย ๆ แล้วตกลง กีฬาเป็นเรื่องจริงจังหรือเป็นสิ่งที่ให้ความบันเทิงกับเรากันแน่นะ คำถามมากมายเกิดขึ้นจาการที่เรานั่งดูกีฬา บางคนนั่งดูบอลแบบข้ามวันข้ามคืน จนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เสียสุขภาพ บางคนเสียการเสียงาน แล้วตกลงเราดูกีฬาเพราะอะไรและทำไม มาไขคำตอบจากปัญหานี้กัน สังคมพาไป หรือเป็นความสนใจของเราแท้ ๆ เชื่อว่าหลายคนคงจะต้องตอบคำถามที่ว่าดูกีฬาทำไม? สนุกตรงไหน? ก็เพราะเกมการแข่งมันสนุกตื่นเต้น เร้าใจนี่นาถึงดู บางคนอาจจะตอบไปว่า จริง ๆ เริ่มต้นจากชอบนักกีฬาก่อน จากนั้นค่อยมาดูการแข่งขันจริง ๆ ซึ่งก็พบว่ามันดูสนุกดีจึงติดตาม ส่วนบางคนก็บอกว่าจริง ๆ เริ่มต้นสนใจเรื่องพนันมากกว่า แต่พอเห็นว่ามีการเปิดรับพนันกีฬาอย่างในเว็บไซต์ VWIN ที่มีการเปิดให้วางเดิมพันกีฬาหลากหลาย จึงมองเห็นว่านี่เป็นช่องทางหาเงินที่ดี จึงเริ่มไปดูกีฬาชนิดต่าง  ๆดูไปดูมาก็เริ่มรู้สึกเพลิน ได้ความรู้ใหม่ ๆ และเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ให้ตนเอง จึงหยุดดูไม่ได้อีกเลย หลายคนก็หลายความเห็น หลายความรู้สึก แต่ในต่างประเทศมีการศึกษาวิจัยในเรื่องนี้จากนักวิทยาศาสตร์และนักจิตวิทยา