มีใครเคยถามตัวเองกันบ้างว่า “ทำไมเราต้องดูกีฬา” การแข่งขันกีฬาเป็นเรื่องที่ซีเรียสจริงจัง หรือเป็นเรื่องของความบันเทิงดูให้สนุกกันแน่ เราได้ยินคำพูดที่ว่า “เกมแพ้คนไม่แพ้” บ่อย ๆ แล้วตกลง กีฬาเป็นเรื่องจริงจังหรือเป็นสิ่งที่ให้ความบันเทิงกับเรากันแน่นะ คำถามมากมายเกิดขึ้นจาการที่เรานั่งดูกีฬา บางคนนั่งดูบอลแบบข้ามวันข้ามคืน จนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เสียสุขภาพ บางคนเสียการเสียงาน แล้วตกลงเราดูกีฬาเพราะอะไรและทำไม มาไขคำตอบจากปัญหานี้กัน

สังคมพาไป หรือเป็นความสนใจของเราแท้ ๆ

เชื่อว่าหลายคนคงจะต้องตอบคำถามที่ว่าดูกีฬาทำไม? สนุกตรงไหน? ก็เพราะเกมการแข่งมันสนุกตื่นเต้น เร้าใจนี่นาถึงดู บางคนอาจจะตอบไปว่า จริง ๆ เริ่มต้นจากชอบนักกีฬาก่อน จากนั้นค่อยมาดูการแข่งขันจริง ๆ ซึ่งก็พบว่ามันดูสนุกดีจึงติดตาม ส่วนบางคนก็บอกว่าจริง ๆ เริ่มต้นสนใจเรื่องพนันมากกว่า แต่พอเห็นว่ามีการเปิดรับพนันกีฬาอย่างในเว็บไซต์ VWIN ที่มีการเปิดให้วางเดิมพันกีฬาหลากหลาย จึงมองเห็นว่านี่เป็นช่องทางหาเงินที่ดี จึงเริ่มไปดูกีฬาชนิดต่าง  ๆดูไปดูมาก็เริ่มรู้สึกเพลิน ได้ความรู้ใหม่ ๆ และเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ให้ตนเอง จึงหยุดดูไม่ได้อีกเลย

หลายคนก็หลายความเห็น หลายความรู้สึก แต่ในต่างประเทศมีการศึกษาวิจัยในเรื่องนี้จากนักวิทยาศาสตร์และนักจิตวิทยา ซึ่งผลการศึกษาวิจัยสรุปออกมาว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้มนุษย์สนใจในเรื่องของกีฬาส่วนใหญ่แล้วมาจากบริบททางสังคม หรือสภาพแวดล้อมรอบข้างนั่นเอง อย่างการไปเชียร์กีฬาที่สนาม บรรยากาศรอบ ๆ สนามจะพาเราให้อินไปกับเกมได้ไม่ยาก บางครั้งเราอาจไม่ได้จดจ่ออยู่กับการแข่งขันเลยด้วยซ้ำ แต่บรรยากาศรอบ ๆ ทำให้เราสนุกไปแบบไม่รู้ตัว ส่วนบางคนเชียร์กีฬาอยู่บ้านผ่านหน้าจอ ภาพในมุมต่าง ๆ เสียงคนพากย์ ภาพบรรยากาศก่อนแข่ง ภาพแฟน ๆ กีฬาที่ผ่านหน้าจอมามีส่วนทำให้เราเกิดอารมณ์ร่วมไปกับเกมได้นั่นเองในทางวิทยาศาสตร์จึงสรุปรวม ๆ ว่าแท้จริงเราไม่ได้สนใจกีฬา 100% หรอก แต่ที่เราอินไปกับเกมการแข่งได้แบบประชิดติดเกม ก็เพราะบรรยากาศสภาพแวดล้อมเป็นสิ่งพาไป

ดูกีฬาแบบอินและฟินสุด ๆ ประหนึ่งเป็นคนแข่งเอง เกิดขึ้นจากอะไร

มีหลาย ๆ ครั้งที่เราดูกีฬาแล้วอินไปกับการแข่ง คล้าย ๆ กับว่าเรากลายเป็นคนลงไปแข่งขันเอง ถึงขนาดมีคนแซวเลยว่า “ลุ้นขนาดนี้ มีพ่อเป็นเจ้าของทีมเหรอ” ถ้าไม่มีใครแซว บางทีเราก็ไม่รู้ตัวเลยเหมือนกันว่าเราอินไปกับเกมได้ขนาดนั้นเชียวหรือ บางครั้งมันก็น่าแปลก กีฬาไม่ใช่ภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่จะดูแล้วติดได้ขนาดนั้น แต่กีฬากับมีพลังดึงดูดให้เราอินมากกว่าการดูซีรีส์เสียอีก ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ เรื่องนี้ก็มีคำตอบอีก นักจิตวิทยาบอกว่า เมื่อเราชมกีฬาเราจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในบรรยากาศการแข่งขัน และการแข่งขันไม่ว่าจะแข่งอะไรก็ตามจะกระตุ้นระบบประสาทส่วนหนึ่งของเราให้เราตื่นตัว หัวใจเต้นเร็วขึ้นระบบสูบฉีดเลือดทำงานมากขึ้น จนกลายเป็นความจดจ่ออยู่กับเกมการแข่ง และนั่นเองทำให้เรารู้สึกว่าเรากลายเป็นส่วนหนึ่งในบริบทเกมไปโดยปริยาย นั่นจึงทำให้เราอินกับกีฬาได้ง่ายกว่าการดูซีรีส์หรือภาพยนตร์ที่จะต้องใช้เวลาในการซึมซับเรื่องราวสักพักนั่นเอง

หากจะกล่าวว่ากีฬาเป็นทั้งความซีเรียสจริงจังและความบันเทิงได้ในสิ่งเดียวกัน ก็คงจะกล่าวได้ เพราะด้วยความที่มีมุมให้เลือกดู มีอารมณ์ให้เรารู้สึกร่วมได้หลากหลายนี่เองทำให้สิ่งนี้มีเสน่ห์จนเราต้องดูและติดตาม แต่ไม่ว่าจะทำให้เรารู้สึกยังไง เราก็จะยังคงติดตามและดูกีฬากันต่อไป แม้ว่าฝั่งที่เราเชียร์จะพ่ายในเกมก็ตาม นี่แหละเสน่ห์ของกีฬาที่มีความไม่เหมือนใคร