ในช่วงประมาณ 3 – 4 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับเลยว่าเป็นช่วงนาทีทองและเป็นช่วงแห่งความตื่นตัวของวงการกีฬาการต่อสู้ ทั้งมวยไทย ทั้ง MMA เพราะเราจะเห็นได้ว่า มีโปรแกรมและรายการการแข่งขันเกิดขึ้นผ่านหน้าจอทีวีมากมาย เป็นรายการการแข่งขันของไทยที่จัดขึ้นเอง รวมไปถึงรายการแข่งขันระดับโลกและระดับเอเชีย ที่ช่องทีวีขอสัญญาณมาออกอากาศถ่ายทอด ซึ่งกระแสตอบรับจากชนิดกีฬาดังกล่าวนี้ก็ดีมากขึ้นเป็นลำดับด้วย จนทำให้ตอนนี้เกิดรายการการแข่งขันกีฬาต่อสู้ขึ้นหลายรายการพร้อมกัน เป็นธุรกิจใหม่ที่น่าจับตาจริง ๆ

มวยไทย เปิดตัวได้สวยในเวทีระดับโลก

หลังจากบัวขาวได้ไปสร้างชื่อไว้ในรายการ K1 ของญี่ปุ่น กระแสกีฬามวยไทยในบ้านเราก็เปลี่ยนไปอย่างมาก จากที่มีมวยไทย 5 ยก อยู่ไม่กี่รายการ ก็เริ่มเกิดรายการมวยไทย 3 ยกขึ้นมาคล้าย ๆ กับ K1 ของญี่ปุ่น แต่ปรับกติกาให้เป็นมวยไทยเต็มรูปแบบ และรายการมวยไทยรูปแบบใหม่นี้ก็สร้างกระแสได้ดี เพราะนักมวยมีเวลาชกกันแค่ 3 ยกจึงไม่มีเวลาดูเชิง มาถึงก็ชกกันอย่างเต็มที่เลย ตรงนี้จึงกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนที่ชอบดูมวยอยู่แล้ว รู้สึกสนุกและบันเทิงเร้าใจมากขึ้น ทางฟากฝั่งวงการพนันมวย ที่คอยสนับสนุนกีฬามวยไทยมาตลอดเวลา ก็ได้เริ่มย้ายข้างมาสู่แวดวงมวยไทย 3 ยกด้วย เดิมเว็บพนันกีฬาออนไลน์เคยมีรับพนันมวยไทย 5 ยกเท่านั้น แต่ปัจจุบันก็ไม่อาจต้านกระแส มวยไทย 3 ยกได้ อย่างเว็บไซต์ VWIN เว็บไซต์รับพนันออนไลน์ชื่อดังก็เปิดให้มีการพนันมวยไทยแบบ 3 ยกด้วย ความนิยมที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้เกิดแฟรนไชส์รายการมวยไทย กระจายออกไปในหลาย ๆ ประเทศ ทั้งจีนและในยุโรป ปัจจุบันทำให้ชาวต่างชาติมากมายเข้ามาฝึกมวยไทยกันมากขึ้น ทั้งผู้ชายและผู้หญิง

MMA เริ่มเป็นกีฬาที่ได้รับการยอมรับในประเทศไทย

ขณะที่มวยไทยกำลังไปได้สวย อีกหนึ่งกีฬาการต่อสู้ก็มาเปิดตัวเปิดตลาดแข่งกันในประเทศไทยนั่นคือ กีฬาต่อสู้แบบผสมผสานหรือ MMA ในช่วงแรกก็ถือเป็นงานหินมา เพราะคนไทยค่อนข้างคุ้นชินติดตากับกีฬาต่อสู้แบบไทย ๆมากกว่า MMA ใช้เวลาอยู่หลายปีค่อย ๆ เปิดตลาดในไทยไปทีละนิด เริ่มจากมีนายทุนจากต่างประเทศมาร่วมลงทุนในการเปิดยิม หาผู้ฝึกสอน และเริ่มมีการจัดแข่งขันในระดับสมัครเล่น จนปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการร่วมมือกันกับนักธุรกิจหลายชาติ สร้างกระแสการยอมรับให้กับแฟนกีฬาต่อสู้ชาวไทย มีการปรับกติกาเอามวยไทยเข้าไปผสมกับกติกา MMA ด้วย ทำให้คนรุ่นใหม่จำนวนหนึ่งเริ่มสนใจในกีฬาต่อสู้ชนิดนี้ และเริ่มจะพัฒนาตนเองเข้าสู่วงการนี้ด้วย

ในตอนนี้จึงต้องบอกว่ากีฬาการต่อสู้มาแรงแซงทุกกีฬาจริง ๆ สำหรับการได้ช่วงเวลาถ่ายทอดในช่องทีวี กีฬาอื่น ๆ นั้นกลายเป็นว่าค่าลิขสิทธิ์สัญญาณแพงจนไม่น่าลงทุน สวนทางกับกีฬาการต่อสู้ ซึ่งนักลงทุน นักธุรกิจมองว่าสามารถต่อยอด หาสปอนเซอร์ สร้างนักกีฬาและไปได้อีกไกล จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมตอนนี้กีฬาต่อสู้จึงกลายเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับคนดังในยุคนี้